ผู้ประกอบการในระบบคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้นักท่องเที่ยวต้องปฏิบัติอย่างไร
• จะได้รับแผ่นป้าย " VAT REFUND FOR TOURISTS " เพื่อแสดงสิทธิในการเป็นผู้ประกอบการ และให้แสดงไว้ ณ ที่เปิดเผยให้นักท่องเที่ยวเห็นได้ชัดเจน เป็นรายสถานประกอบการ
•
ขอรับแบบคำร้องขอคืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับนักท่องเที่ยว (ภ.พ.10)
จากสำนักงานสรรพากรพื้นที่ ซึ่งสถานประกอบการตั้งอยู่ เป็นรายสถานประกอบการ
หรือ ยื่นผ่าน Internet http://vrt.rd.go.th/INETVRT/jsp/VRTI0010.jsp
•
เรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการขายสินค้าให้แก่นักท่องเที่ยว
ยื่นแบบแสดงรายการและนำส่งภาษีภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป
• จัดทำใบกำกับภาษีจากการขายสินค้า
และให้ระบุเลขที่หนังสือเดินทางของนักท่องเที่ยวลงในใบกำกับภาษีทุกฉบับ
•
กรณีนักท่องเที่ยวซื้อสินค้าจากสถานประกอบการแห่งเดียวกัน ในวันเดียวกัน
มีมูลค่ารวมตาม ใบกำกับภาษี ไม่น้อยกว่า 2,000 บาท
ให้จัดทำแบบคำร้องขอคืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับนัก ท่องเที่ยว (ภ.พ.10)
และมอบให้นักท่องเที่ยวพร้อมกับใบกำกับภาษี ( คำแนะนำการจัดทำคำร้องฯ )
•
ทำรายงานการจัดทำคำร้องขอคืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับนักท่องเที่ยว ( คท.9
) และเก็บรักษาไว้ ณ สถานประกอบการเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 2 ปี
• กรณีที่มีการเพิ่ม ลด ย้าย
สถานประกอบการ เปลี่ยนชื่อผู้ประกอบการหรือสถานประกอบการ
หรือไม่ประสงค์จะเป็นผู้ประกอบการในระบบ VRT
ให้แจ้งต่อสำนักงานสรรพากรพื้นที่ท้องที่ที่สถานประกอบการซึ่งเป็นสำนักงาน
ใหญ่ตั้งอยู่ ภายใน 7 วัน นับแต่มีการเปลี่ยนแปลง
คำแนะนำการจัดทำคำร้องขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับนักท่องเที่ยว (ภ.พ.10)
• ขอดูหนังสือเดินทาง ( Passport )
จากนักท่องเที่ยวเพื่อบันทึกชื่อและเลขที่หนังสือเดินทางลงในใบกำกับภาษีให้
ตรงกับข้อมูลของนักท่องเที่ยวในแบบ ภ.พ.10 (
หากใบกำกับภาษีมีข้อผิดพลาดที่ต้องแก้ไข
ให้ทำการยกเลิกใบกำกับภาษีที่ผิดพลาดแล้วออกใบกำกับภาษีฉบับใหม่ )
•
เมื่อนักท่องเที่ยวซื้อสินค้ามีมูลค่ารวมไม่น้อยกว่า 2,000 บาท (
ราคาสินค้ารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ) จากสถานประกอบการแห่งเดียวกัน
ในวันเดียวกัน ให้จัดทำคำร้องขอคืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับนักท่องเที่ยว (
ภ.พ.10 ) และมอบให้นักท่องเที่ยวพร้อมใบกำกับภาษี
• กรณีการขายสินค้ามีส่วนลด ให้ระบุราคาที่หักส่วนลดแล้ว และเป็นราคาที่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
• หากเนื้อที่สำหรับกรอกรายการสินค้าในแบบ ภ.พ.10 มีไม่เพียงพอ ให้ใช้ใบต่อ ภ.พ.10
• เลขที่ใบกำกับภาษีที่ระบุในแบบ ภ.พ.10 ต้องตรงกับเลขที่ของใบกำกับภาษีที่จัดทำขึ้น
• ระบุรายการสินค้าให้ชัดเจนว่าเป็นสินค้าประเภทใด โดยไม่ลงรายการเป็นรหัสสินค้า
• ไม่นำรายการสินค้าดังต่อไปนี้มาจัดทำหรือระบุในแบบ ภ.พ.10
- สินค้าที่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม เช่น อาหารสด ฯลฯ
-
สินค้าที่ต้องห้ามนำออกนอกราชอาณาจักร ( อาวุธปืน
วัตถุระเบิดหรือสินค้าที่มีลักษณะเดียวกัน
อัญมณีที่ยังไม่ได้ประกอบขึ้นเป็นตัวเรือนหรือรูปพรรณ )
• กรณีนักท่องเที่ยวซื้อสินค้าประเภท
อัญมณีที่ประกอบเป็นตัวเรือนหรือของรูปพรรณ ทองรูปพรรณ นาฬิกา แว่นตา
หรือปากกา ให้ประทับตราข้อความสีแดง ( ตามตัวอย่างด้านล่าง )
เพื่อให้นักท่องเที่ยวทราบว่าต้องนำสินค้าดังกล่าวที่มีราคาชิ้นละ 10,000
บาท ติดตัวไปแสดงต่อ เจ้าหน้าที่สรรพากรประจำท่าอากาศยานระหว่างประเทศ
ในการขอคืนภาษีด้วย
• ลงลายมือชื่อผู้จัดทำคำร้องในแบบ ภ.พ.10
• ลงวันที่การจัดทำคำร้องในแบบ ภ.พ.10 ซึ่งเป็นวันเดียวกับวันที่ในใบกำกับภาษี
• ให้นักท่องเที่ยวกรอกข้อความในแบบ
ภ.พ.10 ( ในส่วนสำหรับนักท่องเที่ยว ) พร้อมลงลายมือชื่อ
ผู้ขอคืนในวันที่ซื้อสินค้าโดยทันที
และให้ตรวจลายมือชื่อผู้ขอคืนให้ตรงกับลายมือชื่อนักท่องเที่ยวในหนังสือ
เดินทาง ( Passport )