การก่อตั้งหน่วยงาน
เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2542 กรมสรรพากรได้จัดตั้ง
"ศูนย์กลางการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้นักท่องเที่ยว"(ศคท.) "VAT REFUND FOR
TOURISTS OFFICE'
ตามนโยบายใช้มาตรการทางภาาีอางกรเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการท่องเที่ยว
มีสายงานบังคับบัญชาขึ้นตรงต่ออธิบดีกรมสรรพากรหรือผู้ซึ่งอธิบดีกรมสรรพากร
มอบหมาย เพื่อดำเนินการคืนภาษีให้นักท่องเที่ยวอย่างถูกต้อง รวดเร็ว
มีประสิทธิภาพ
โดยรับผิดชอบดูแลการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางออก ณ
ท่ากาศยานนานาชาติ 4 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานกรุงเทพ ท่าอากาศยานเชียงใหม่
ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่
ต่อมาเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2543
กรมสรรพากรได้เปิดให้บริการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้นักท่องเที่ยวที่ท่า
อากาศยานอู่ตะเภา เป็นแห่งที่ 5
เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในภาคตะวันออกของไทย
เมื่อวันที่ 9
ตุลาคม 2545 กรมสรรพากรได้แบ่งส่วนราชการใหม่ มีการยกสถานะ
"ศูนย์กลางการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้นักท่องเที่ยว" ศคท.
เป็นกลุ่มงานด้านมาตรฐาน
ด้านเทคนิคและด้านวิชาการเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของกรมสรรพากร
รับผิดชอบงานขึ้นตรงต่ออธิบดีกรมสรรพากร และเปลี่ยนชื่อ เป็น
"กลุ่มงานบริหารการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่นักท่องเที่ยว"(คท.) "VAT
REFUND FOR TOURISTS OFFICE"
หน้าที่ความรับผิดชอบ
1. ให้บริการคืนภาษีมุลค่าเพิ่มให้แก่นักท่องเที่ยวท่าอากาศยานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง 5 แห่ง |
2. ให้คำแนะนำ ปรึกษา กำกับและติดตามการดำเนินการของผู้ประกอบการที่เป็นผู้ขายสินค้าคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่นักท่องเที่ยว
|
3. ให้บริการรับชำระภาษีอากรค้างของคนต่างด้าวซึ่งถูกระงับการเดินทางออกนอกประเทศ |
4. วางแผนและกำหนดมาตรฐานการตรวจสอบเป็นระบบ เพื่อให้มีความโปร่งใสและเทียบเท่ามาตรฐานสากล |
|
เนื่องจากรัฐบาลไทยมีนโยบายให้ท่าอากาศยานของประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบิน
ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียง
ใต้
ซึ่งท่าอากาศยานกรุงเทพมีข้อจำกัด ในการพัฒนา
จึงได้จัดสร้างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพื่อรองรับการจราจรทางอากาศที่เพิ่ม
ขึ้นในอนาคต ณ พื้นที่หนองงูเห่า โดยมีศักยภาพรองรับผู้โดยสารถึง 45
ล้านคนต่อปี รองรับเที่ยวบิน 76 เที่ยวบินต่อชั่วโมง ดังนั้น
กรมสรรพากรจึงได้เปิดให้บริการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2549
|
วันที่ 23 มกราคม
2551 "กลุ่มงานบริหารการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่นักท่องเที่ยว"
(คท.) "VAT REFUND FOR TOURISTS
OFFICE" โดยมีสำนักงานคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่นักท่องเที่ยว ณ
ท่าอากาศยานนานาชาติ 5 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานหาดใหญ่
และท่าอากาศยานอู่ตะเภา
พร้อมนี้ยังให้บริกาคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่นักท่องเที่ยว ณ
ท่าอากาศยานกรุงเทพในกรณีการเดินทางแบบเช่าเหมาลำและได้แจ้งความประสงค์จะขอ
คืนภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมทั้ง
เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของแหล่งท่องเที่ยวแถบชายฝั่งทะเล
อันดามัน กรมสรรพากร
ได้เปิดให้บริการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่นักท่องเทียว ณ ท่าอากาศยานกระบี่
และท่าอากาศยานสมุยแล้วเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม
2552 |
|
ขอบข่ายการให้บริการ
ปี พ.ศ. 2553
กรมสรรพากรเปิดสำนักงานคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้นักท่องเที่ยวเป็นเงินสด ณ
ท่าอากาศยานนานาชาติ จำนวน 8 แห่ง โดยมีเวลาทำการ ดังนี้
ท่าอากาศยาน
|
เวลาทำการ |
สุวรรณภูมิ ภูเก็ต |
ทุกวัน 24 ชั่วโมง |
อู่ตะเภา เชียงใหม่ กระบี่ สมุย |
วัน เวลาที่มีเที่ยวบินไปต่างประเทศ |
ดอนเมือง |
วัน เวลาที่ได้รับแจ้งว่ามีเที่ยวบินไปต่างประเทศ |
สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางออกนอกประเทศทางอากาศยาน
และได้ปฏิบัติถูกต้องครบถ้วนตามเงื่อนไข หลักเกณฑ์การขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
สามารถส่งแบบคำร้องขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้นักท่องเที่ยว (แบบ ภ.พ.10:
P.P.10) พร้อมแนบใบกำกับภาษีต้นฉบับ สำเนาภาพถ่าย Passport
ที่แสดงตัวตนของนักท่องเที่ยว วันเวลาการเดินทางเข้าและออกประเทศไทย
หลักฐานการเดินทางทางท่าอากาศยาน และสำเนาภาพถ่าย Credit Card ของ VISA,
MASTER, DINNER, หรือ JCB ที่ระบุชื่อนักท่องเที่ยว ไปยัง
กลุ่มบริหารการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่นักท่องเที่ยว
90 อาคารสำนักงานใหญ่ กรมสรรพากร
ถนนพหลโยธิน พหลโยธิน ซอย 7
แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400
|